Q: การรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ทางกายภาพบำบัด (Ultrasound therapy) คืออะไร

A: การทำอัลตราซาวน์เป็นเครื่องรักษาด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ที่ให้ผลความร้อนในลักษณะความร้อนลึก ใช้ลดอาการปวด ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อ เพิ่มความยืดหยุ่นของข้อต่อในชั้นลึก ลดอาการบวม และช่วยเร่งการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ รวมทั้งคลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ขณะรับการรักษา ผู้ป่วยอาจจะรู้สึกปวดตื้อๆ แต่ผู้ป่วยสามารถทนได้ ระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับขนาดของบริเวณที่มีอาการ 

Q: ความเข้มในการรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ทางกายภาพบำบัด Ultrasound คืออะไร

A: คลื่นที่ใช้ในทางกายภาพบำบัด จะมีความเข้มอยู่ในช่วง 0.125-3 W/cm2 และความถี่ 0.75- 3 MHz

Q: ผลที่ได้รับจากการรักษาด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ทางกายภาพบำบัด Ultrasoundคืออะไร

A: - เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ และข้อต่อในชั้นลึก
          - เพื่อลดอาการปวด
          - เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน
          - เพื่อลดอาการเกร็งตัวของเนื้อเยื่อและพังผืด
          - เพื่อลดอาการบวมเนื่องมาจากการอักเสบในระยะแรก

Q: คลื่นที่ใช้ในทางกายภาพบำบัด มีกี่แบบ

A: :- แบบ Continuous modeคือการปล่อยคลื่นออกมารักษาตลอดเวลา เพื่อลดการยึดแข็งของข้อต่อ ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ และลดการปวด

            - แบบ Pulsed modeคือการปล่อยคลื่นจากหัว Ultrasoundออกมาเป็นช่วงๆ เรียกว่า duty cycleเพื่อเร่งขบวนการสร้างเนื้อเยื่อ กระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน และเร่งการสมานของเนื้อกระดูก

Q:Ultrasound ใช้รักษาในระยะ acute ได้อย่างไร

A: ให้คลื่นอัลตร้าซาวด์ที่ระดับที่ใช้ในการรักษากับเนื้อเยื่อที่ได้รับอันตรายมาใหม่ๆ จะมีผลในการเร่งกระบวนการซ่อมสร้างและลดช่วงเวลาการดำเนินของระยะการอักเสบลง แต่กระบวนการดังกล่าวจะเกิดได้ดี จำเป็นต้องเอาตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดการอักเสบออกไปก่อน

Q: ผู้ป่วยมีอาการปวดไหล่ตื้อๆ และมีจุดกดเจ็บเป็นเวลานานจะมีการรักษาอย่างไร

A: รักษาโดยการวาง Hot pack และทำ Ultrasound เพื่อบรรเทาอาการปวด

Q:การใช้น้ำแทนเจลในการอัลตร้าซาวด์ได้อย่างไร

A:ใช้น้ำเป็นตัวกลางให้คลื่นอัลตร้าซาวด์ผ่านไปยังส่วนที่ต้องการรักษา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นส่วนของร่างกายที่ไม่เรียบ มีปุ่มกระดูก ข้อต่อเล็กๆ จุ่มหัวอัลตร้าซาวด์ลงใต้ผิวน้ำ ให้หัวอัลตร้าซาวด์กับผิวหนังควรห่างกันประมาน 1 ฟุต

Q: ผู้ป่วยเป็นโรครองช้ำมา 3 เดือน สามารถรักษาด้วย Ultrasound ได้หรือไม่

A: ได้ ควรใช้โหมดContinuous modeเนื่องจากผลของความร้อนจะไปช่วยการไหลเวียนและลดปวด ช่วยคลายผังผืดที่ยึดติด

Q: Pulsed modeใช้กับผู้ป่วยแบบใด

A:ผู้ป่วยในระยะอักเสบเฉียบพลัน เพราะว่าไม่ต้องการผลของความร้อนในการรักษา เนื่องจากถ้าใช้ผลของความร้อนมันจะไปกระตุ้นการไหลเวียนทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มขึ้น

Q: การรักษาด้วยความร้อนของกายภาพบำบัดมีอะไรบ้าง

A:เครื่องอัลตราซาวด์(ultrasound), เครื่องรักษาด้วยไฟฟ้าชนิดคลื่นสั้น(short wave diathermy), เครื่องรักษาด้วยคลื่นไมโครเวฟ(microwave diathermy), เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า(electrical stimulation), เลเซอร์รักษา, เครื่องรักษาด้วยคลื่นช๊อคเวฟ(shock wave therapy) รวมไปถึงเครื่องมืออื่นๆ เช่น แผ่นประคบร้อน-เย็น, พาราฟินให้ความร้อน

Q: เจลสำหรับอัลตราซาวน์ทางกายภาพบำบัด คืออะไร

A:คือเจลที่ใช้เป็นตัวกลางในการส่งผ่านคลื่นแบบสัมผัสโดยตรง มีประสิทธิภาพในการส่งผ่านอัลตราซาวน์ได้ดี

Q: ผู้ป่วยปวดสะโพกข้างขวา ควรใช้อะไรในการรักษาทางกายภาพบำบัด

A: Ultrasound,Hot packเพื่อบรรเทาอาการปวดที่สะโพกขวา Hotpackวาง 20-30 นาที Ultrasound 5-10 นาที

Q: ความถี่ของหัวเครื่องทางกายภาพบำบัด Ultrasound ขนาด 1 MHz และ 3MHz แตกต่างกันอย่างไร

A: - ความถี่ 1 MHz ให้คลื่นส่งลงเนื้อเยื่อชั้นลึกได้ดีกว่า เนื้อเยื่ออ่อนหนา ชั้นไขมันที่ค่อนข้างหนา และกล้ามเนื้อที่หนา

            -ความถี่ 3 MHz ให้คลื่นส่งลงเนื้อเยื่อชั้นตื้นได้ดีกว่า เนื้อเยื่อปกคลุมบาง เอ็นข้อต่อ เอ็นร้อยหวาย เอ็นข้อศอกที่อักเสบ พังผืดฝ่าเท้าอักเสบ

Q: รูปแบบคลื่น Ultrasound แบบ Continuous mode ต่างจากแบบ Pulsed mode อย่างไร

A: - แบบ Continuous modeคือการปล่อยคลื่นออกมารักษาตลอดเวลา เพื่อลดการยึดแข็งของข้อต่อ ลดการเกร็งของกล้ามเนื้อ และลดการปวด

            - แบบ Pulsed modeคือการปล่อยคลื่นจากหัว Ultrasoundออกมาเป็นช่วงๆ เรียกว่า duty cycleเพื่อเร่งขบวนการสร้างเนื้อเยื่อ กระตุ้นการสังเคราะห์โปรตีน และเร่งการสมานของเนื้อกระดูก

Q: ข้อควรระวังขณะทำการรักษาด้วยเครื่อง Ultrasound คืออะไร

A: - ไม่ควรยกหัว Ultrasound ขึ้นขณะทำการรักษา

          -  ควรปิดเครื่องก่อนยกหัว Ultrasound ขึ้นจากจุดรักษา

           - ไม่ควรใช้แรงกดมากจนไม่มีเนื้อเจลระหว่างหน้าสัมผัส

           - ไม่ควรใช้แรงกดน้อยเกินไปจะทำให้รู้สึกแสบร้อน

           - ระหว่างการรักษาควรสอบถามผู้รักการรักษาบ่อยๆ เพื่อให้เกิดความแน่ใจว่าเครื่องกำลังทำงาน

 (เกิดอาการปวดหรือแสบร้อน)