Q: Suspension system คืออะไร

A: เป็นการออกกําลังที่ใช้การแขวนพยุงส่วนต่างๆของร่างกายที่ออกกําลังหรือเคลื่อนไหวด้วยสลิงที่เกี่ยวไว้กับเชือกที่ปรับความยาวได้ที่เรียกรวมว่า suspension unit วิธีการนี้ใช้เพื่อปล่อยให้ส่วนที่จะเคลื่อนไหวนั้นเป็นอิสระจากแรงต้านต่อแรงเสียดทาน รวมถึงการเคลื่อนไหวที่มีแรงโน้มถ่วงต้านการเคลื่อนไหว

Q: ผู้ป่วยที่ต้องรักษาด้วยระบบ Suspension system คือผู้ป่วยประเภทใด

A: โดยมากมักจะใช้ในคนไข้ที่มีความบกพร่องในการเคลื่อนไหวของร่างกายในระยะแรก เช่น

– หลังการผ่าตัด (Surgical inference)

- หลังจากการเกิดอุบัติเหตุ (Recent injury)

 - อ่อนแรง (Paralysis)

 – เจ็บตามข้อต่อ (Joint painful)

Q: ประโยชน์ของการใช้ Suspension system คืออะไร

A: ถ้าคนไข้ใช้ระบบแขวนพยุงก็จะทําให้ออกกําลังหรือเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น โดยการแขวนพยุงจะช่วยพยุงและรับน้ําหนักของส่วนที่เคลื่อนไหวที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก ทําให้ผู้ป่วยสามารถเคลื่อนไหวส่วนของร่างกายได้ง่ายขึ้น

Q: ประโยชน์ที่ได้จากการออกกําลังกายด้วยการแขวนพยุง Suspension exercise คืออะไร

A: ผู้ป่วยสามารถทําการเคลื่อนไหวส่วนของร่างกายได้ด้วยตนเอง และสามารถเรียนรู้การใช้กล้ามเนื้อในการออกกําลังกายได้อย่างเหมาะสม

- มีความผ่อนคลาย เพราะมีที่พยุง (support) ที่ปลอดภัย และการเคลื่อนไหวในการออกกําลังกายจะราบเรียบและเป็นไปตามจังหวะ

 - สามารถปรับเปลี่ยนระบบการแขวนพยุงเพื่อให้เหมาะสมกับความสามารถของกล้ามเนื้อโดยจะเป็นการช่วยให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น หรือให้ผู้ป่วยออกแรงเคลื่อนไหวได้ยากขึ้นก็ได้

- หลังจากผู้ป่วยได้รับคําแนะนําเกี่ยวกับการออกกําลังกายแล้ว ผู้ป่วยสามารถฝึกการออกกําลังกายได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องมีนักกายภาพบําบัดมาคอยดูแล

Q: ชนิดของการแขวนพยุง (Types of suspension) มีกี่ชนิด

A: โดยทั่วไปแล้วเราจะแบ่งชนิดของการแขวนพยุงออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ

         1. แบบ vertical fixation

         2. แบบ axial fixation

Q: suspension แบบ vertical fixation คืออะไร

A: Vertical fixation หรือ pendular fixation จุดยึดลักษณะนี้เป็นการยึดในแนวดิ่ง จุดแขวนจะอยู่เหนือร่างกายที่จะพยุง ซึ่งจะตรงกับตําแหน่งประมาณจุดศูนย์ถ่วงของร่างกายนั้น (รอยต่อระหว่าง 1/3 ส่วนต้น กับ 1/3 ส่วนกลางของส่วนนั้นๆ)

Q: suspension แบบ axial fixation คืออะไร

A: Axial fixation เป็นการแขวนที่สลิงที่รองรับส่วนของร่างกายที่ทําการเคลื่อนไหวทุกชิ้นแขวนรวมกันอยู่จุดศูนย์กลางของข้อกระดูกที่ต้องการที่จะเคลื่อนไหว ทําให้การเคลื่อนไหวของข้อกระดูกรวมถึงส่วนของร่างกายที่แขวนพยุงนั้นเป็นแนวราบ (horizontal)

Q: อุปกรณ์และเครื่องมือที่ใช้ในการช่วยพยุงมีอะไรบ้าง

A: 1. จุดตรึง (Fixed point) ปกติจุดยึดตรึงจะเป็นตาข่ายเหล็กขนาด 5 ตร.ซม. โดยมีสเตนเลส หรือ พลาสติกเป็นเสาแกนล้อมรอบ

2. ตะขอ (Hooks)แขวนอยู่ที่จุดยึดตรึงที่ติดผนังทางด้านข้าง ซึ่งสามารถนําอุปกรณ์ต่างๆมาแขวนใกล้ๆได้เพื่อความสะดวกในการหยิบใช้ระยะห่างระหว่างเตียงและตาข่ายเหนือศีรษะจะห่างประมาณ 1.5เมตร แต่ถ้าไม่สามารถยึดตาข่ายติดผนังได้ ส่วนมากจะใช้เหล็กขึงโครงตาข่ายแทน

3. ที่เก็บอุปกรณ์ (Storage)อุปกรณ์ต่างๆสามารถเก็บได้โดยการแขวนไว้ที่ฝาผนังหรือที่รถเข็น ซึ่งทั้งสองข้างของรถเข็นจะมีตะขอเพื่อใช้แขวนอุปกรณ์ suspension, pulley และ springs ซึ่งทําให้ง่ายและสะดวกต้อการเคลื่อนย้าย

4. เชือกที่ใช้ตรึง (Supporting ropes) ส่วนมากจะทํามาจากการสานเชือกป่าน 3เส้นเข้าด้วยกันทําให้ไม่เกิดการลื่น ซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีกเป็น 3 แบบ คือ เชือกเส้นเดี่ยว เชือกยึดลูกรอกและเชือกเส้นคู่

5. แถบพยุง (Slings) ส่วนใหญ่จะทําจากผ้าใบที่แข็งแรง รูปร่างจะเป็นรูปโค้งเพื่อให้ง่ายต่อการนําไปใช้กับห่วงหรือเชือก แถบพยุงนี้สามารถแบ่งออกเป็น 4 แบบด้วยกันคือ แถบพยุงเดี่ยว แถบพยุงคู่ แถบผ้าพยุงศีรษะ และเชือกพยุง 3 ห่วง

6. ตัวล๊อค (clips) มีอยู่ด้วยกัน 2แบบ ได้แก่ ห่วงตะขอแบบ dog clipและห่วงตะขอแบบcarabiner hook ซึ่งมีขนาด 70 มม. และ 100 มม.ซึ่งตะขอทั้ง 2 แบบนี้มีไว้เพื่อยึดวัตถุ 2 ชนิดไว้ด้วยกัน

Q: การจัดท่าผู้ป่วยให้เกิดความมั่นคงเพื่อทำการออกกำลังกายด้วยsuspensionทำได้อย่างไร

A: ทำได้โดยการใช้หมอนช่วยพยุงรองรับส่วนของร่างกายอื่นที่มิได้เคลื่อนไหวในบางครั้งการเคลื่อนไหวของบางข้อต่อโดยเฉพาะการกางข้อไหล่ (shoulder abduction) ไม่สามารถจะจัดให้ขนานกับพื้นได้พอดีเพราะแขนจะลากกับพื้น หรือมิเช่นนั้นผู้ป่วยจะยื่นไหล่มาข้างหน้า (protraction of scapulae) เราสามารถเลี่ยงโดยการจัดลำตัวซีกนั้นให้สูงขึ้นหรือยกลำตัวซีกตรงข้ามขึ้นทำให้แนวลำตัวเอียงทำมุมประมาณ 15 องศากับพื้นเตียงอย่างไรก็ตามการจัดท่าเช่นนี้จะทำให้การเคลื่อนไหวมีลักษณะของการแกว่ง (pendulum) เล็กน้อย

Q: นักกายภาพบำบัดจะสอนให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวด้วย suspension ที่ถูกต้องได้อย่างไร

A: ทำได้โดยต้องไม่ใช้การเหวี่ยง แต่ให้เคลื่อนไหวร่างกายไป-กลับแล้วหยุดก่อนให้เริ่มต้นเคลื่อนไหวครั้งต่อไป เพื่อมิให้เกิดโมเมนตัมจากการเคลื่อนไหวครั้งก่อนหน้านี้