Q: ถุงทรายออกกำลัง (Sandbag) คืออะไร

A:เป็นอุปกรณ์ทางกายภาพบำบัดที่ใช้ฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อ เพิ่มความแข็งแรงกล้ามเนื้อแขนและกล้ามเนื้อขา

Q: ทำไมถึงเรียกถุงทรายทั้งๆที่เป็นข้างในเป็นเม็ดเหล็กกลึง (sand bag)

A:จริงๆแล้ว เป็นเทคนิคการเพิ่มกำลังกล้ามเนื้อโดยใช้หลักการใช้แรงต้านในการออกกำลังกาย ในอดีตใช้ทรายใส่ถุงแล้วเย็บเป็นถุงผ้าไปถ่วงบริเวณที่ต้องการบริหาร แต่ปัจจุบันนิยมใช้เป็นเม็ดเหล็กกลึงหุ้มด้วยหนัง ทั้งนี้เพราะเม็ดเหล็กกลึงมีน้ำหนักที่เสถียร ไม่ย้อยไปมาขณะบริหาร สายรัดปรับความกระชับได้เพื่อความสะดวกในการใช้งาน แต่ก็ยังคงนิยมเรียกว่าเป็นถุงทราย เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทางกายภาพบำบัดและกิจกรรมบำบัด

Q: ในผู้ป่วยโรคอัมพาตนิยมนำถุงทรายออกกำลัง (Sandbag) มากกว่าการใช้นัมเบลทำกายภาพบำบัดมากกว่า

A: เพราะถุงทรายมีความปลอดภัยมากกว่ากรณีนัมเบลหล่นจากมือ จะเกิดการบาดเจ็บผู้ป่วยได้มากกว่า และถุงทรายใช้ได้หลากหลายกว่าคือผูกได้ทั้งข้อมือและข้อเท้า

Q: ถุงทรายออกกำลัง (Sandbag)  มีประโยชน์อย่างไรเมื่อนำมาใช้กับผู้ป่วยโรคอัมพาต

A:ช่วยยืดถ่วงกล้ามเนื้อแขนข้างที่อัมพาตที่มีอาการหดรั้งติดแข็งให้เหยียดได้ง่ายขึ้น

Q: ประเภทของผู้ป่วยที่สามารถนำถุงทรายมาใช้ในการบำบัดรักษา ได้แก่อะไรบ้าง

A:ผู้ที่มีปัญหา incoordination โรคพากินสัน โรคหลอดเลือดสมองผู้สูงอายุ กล้ามเนื้อลีบ อ่อนแรง เด็กสมองพิการ

Q: ประโยชน์ของถุงทรายออกกำลัง (Sandbag) ในการนำมาใช้เพื่อออกกำลังกาย คืออะไร

A:ช่วยลดหน้าท้อง ลดพุง ขาเรียว ลดต้นขา ลดเซลลูไลซ์ช่วยแขนเรียวกระชับ เพิ่มความแข็งแรง เพิ่มความทนทานกล้ามเนื้อ

Q: ประเภทผู้ป่วยที่หลังทำการผ่าตัด และใช้ถุงทรายออกกำลัง (Sandbag) เพื่อช่วยในการบำบัดฟื้นฟูได้แก่อะไรบ้าง

A:ผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพก เปลี่ยนข้อเข่า เปลี่ยนลูกสะบ้าและผู้ที่มีปันหากล้ามเนื้ออ่อนแรง

Q: ผู้ป่วยข้อเข่าเสื่อม สามารถนำถุงทรายออกกำลัง (Sandbag) ใช้ในการทำกายภาพบำบัดได้อย่างไร

A:ใช้ถุงทรายถุงทรายออกกำลัง (Sandbag) รัดที่ข้อเท้า ในท่านั่งคือให้นั่งห้อยขาข้างเตียงแล้วเตะขาขึ้นเกร็งค้างไว้ 5 วินาทีแล้ววางขาลง ส่วนท่านอนให้เอาหมอนรองใต้เข่าสูง 30 องศา แล้วเตะขาขึ้นเกร็งค้างไว้ 5 วินาทีแล้ววางขาลง

Q: การเลือกใช้น้ำหนักเพื่อเพิ่มความแข็งแรงในถุงทรายออกกำลัง (Sandbag)

A:เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ ตามสัดส่วน เริ่มต้นจากการหา 10 RM คือน้ำหนักมากที่สุดที่สามารถยกได้เพียง 10 ครั้ง โดยเริ่มยกน้ำหนักจาก 50%, 75% และ 100% ของ 10 RM รอบละ 10 ครั้ง (ผู้ทำจะเกิด muscle fatique) ทำ 3-5 วันต่อสัปดาห์แนะนำการออกกำลังในชีวิตประจำวันใช้น้ำหนักมากกว่า 70% ของน้ำหนักที่ยกได้สูงสุดหรือน้ำหนักที่ยกได้ 8-10 ครั้งต่อเนื่อง ทำ 8-12 ครั้งต่อรอบ(set) 3 รอบ(set) ต่อวัน โดยทำช้าๆ ทั้งขา

Q:ผู้ป่วยผ่าตัดเข่ามา 3 สัปดาห์ ต้องการฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อขา ควรเริ่มออกกำลังกายด้วยน้ำหนักเท่าใด

A:โดยเริ่มจากการใช้น้ำหนักที่ยกได้มากที่สุด เช่น ทำการยก 1 kgหากยกได้ให้เพิ่มน้ำหนักเป็น 2 kg ถ้ายกได้อีกให้เพิ่มเป็น 3 kg และเพิ่มน้ำหนักเป็น 4 kg แต่ยกไม่ไหว ให้ออกกำลังกายด้วยน้ำหนักที่ 3 kg