Q & A เรื่อง หายได้จริงหรือ!!!โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือรองช้ำ (Plantar Fasciitis)
BY...FIRSTPHYSIO http://www.firstphysioclinic.com LINE ID:0852644994
1. Q: โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือรองช้ำอาการเป็นอย่างไร |
A: เมื่อตื่นนอนในตอนเช้าและก้าวเท้าลงพื้น จะเกิดอาการปวดบริเวณฝ่าเท้าและส้นเท้า |
2. Q: สาเหตุของการเกิดโรครองช้ำ คืออะไร |
A: มีการบาดเจ็บหรืออักเสบของเอ็นฝ่าเท้าบริเวณที่เกาะกับกระดูกส้นเท้า |
3. Q:โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือรองช้ำ เป็นแล้วหายได้หรือไม่ |
A:หายได้แต่เป็นใหม่ได้ ขึ้นกับการใช้งานของเท้า เอ็นฝ่าเท้าจะยึดจากกระดูกส้นเท้าไปยังนิ้วเท้า ทำหน้าที่ช่วยรักษารูปทรงของเท้า และยังทำหน้าที่เหมือนสปริงช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเดินหรือวิ่งการใช้งานซ้ำๆ นานๆโดยไม่ผ่อนคลายอาการปวดจึงกลับมาใหม่ได้ |
4. Q: อาการในระยะแรกของโรครองช้ำมีอะไรบ้าง |
A: เกิดอาการปวดฝ่าเท้าภายหลังการออกกำลังกาย เดิน หรือยืนนาน ๆ แต่ถ้าอาการมากขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกปวดส้นเท้าอยู่ ตลอดเวลา |
5. Q: ลักษณะเฉพาะของโรคนี้ คืออะไร |
A: เมื่อลุกขึ้นเดิน 2–3 ก้าวแรกหลังจากตื่นนอนในตอนเช้า หรือหลังจากนั่งพักขาเป็นเวลานาน จะรู้สึกเจ็บบริเวณส้นเท้า เนื่องจากเกิดการกระชากของเอ็นฝ่าเท้าที่อักเสบอย่างทันทีทันใด แต่เมื่อเดินไประยะหนึ่ง เอ็นฝ่าเท้าจะค่อย ๆ ยืดหยุ่นขึ้น อาการเจ็บส้นเท้าจึงค่อย ๆ ทุเลาลง |
6. Q: ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดเมื่อไม่รับการรักษาและปล่อยไว้เป็นเวลานาน คืออะไร |
A: อาจมีหินปูนเกิดขึ้นบริเวณกระดูกส้นเท้าที่เอ็นฝ่าเท้ายึดเกาะอยู่ |
7. Q: ผู้หญิงกับผู้ชายใครมีปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคนี้มากกว่ากัน |
A: ผู้หญิง เนื่องจากไขมันส้นเท้าจะบางกว่า เอ็นและกล้ามเนื้อของน่องและฝ่าเท้าไม่แข็งแรงเท่าผู้ชาย |
8. Q: ผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์กับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ใครมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนี้มากกว่า กัน |
A: ผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่าเกณฑ์ เพราะหากน้ำหนักมาก เส้นเอ็นฝ่าเท้าก็ต้องรับน้ำหนักมาก ทำให้เส็นเอ็น ฝ่าเท้าอักเสบและรักษาหายช้า |
9. Q: มีอาการปวดโรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือรองช้ำ เป็นๆหายๆมาตลอด 3 เดือน แต่ไม่อยากฉีดยาต้องทำอย่างไรบ้าง |
A: -แช่เท้าในน้ำอุ่นและบริหารในน้ำอุ่น ประมาณ 10นาที - บริหารฝ่าเท้าโดยใช้ลูกกลิ้งนวดเท้าลดปวดเท้าเป็นประจำ - ใส่อุปกรณ์ลดปวดส้นเท้าและฝ่าเท้า plantar night splint เวลานอน - ระหว่างวันควรใส่รองเท้าบำบัดเพื่อช่วยในการกระจายน้ำหนักของเท้า |
10. Q: ผู้ที่มีอายุมากขึ้นทำไมจึงมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ |
A: เนื่องจากไขมันบริเวณส้นเท้าจะบางลง ทำให้จุดเกาะของเอ็นฝ่าเท้าบริเวณกระดูก ส้นเท้าได้รับแรงกระแทกมากขึ้น |
11. Q: อาชีพใดมีปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนี้มากที่สุด |
A: ผู้ที่ทำงานที่ต้องยืนหรือเดินนาน ๆ บนพื้นแข็ง หรือขรุขระ เช่น พนักงาน นักกีฬา ครู พยาบาล ผู้ที่ ใส่รองเท้าส้นสูงนาน แม่ค้าที่ต้องยืนเดินขายของนานๆ |
12. Q: การออกกำลังกายแบบใดที่ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ |
A: ผู้ที่ออกกำลังกายที่หนักเกินไปหรือไม่ได้ยืดกล้ามเนื้อน่องหรือเอ็นร้อยหวาย |
13. Q: ลักษณะเท้าแบบใดที่เกิดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้ |
A: มีภาวะฝ่าเท้าแบนหรือโก่งโค้งจนเกินไป เพราะเส้นเอ็นยึดบริเวณน่องทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวข้อเท้าได้ตามปกติ |
14. Q: อุปกรณ์ใดที่ควรใส่เวลานอนเมื่อเกิดโรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือรองซ้ำ |
A: อุปกรณ์ลดปวดส้นเท้าและฝ่าเท้า plantar night splint |
15. Q: คนเป็นรองซ้ำควรใส่รองเท้าแบบใด |
A: ควรใส่รองเท้าประเภท รองเท้าบำบัดที่มีส้นนุ่ม ๆ หรือใช้แผ่นรองส้นเท้าที่นุ่ม ๆ มาติดเสริมในรองเท้า ผู้ที่มีฝ่าเท้าแบน อาจเลือกใช้แผ่นรองเสริมอุ้งเท้าเพื่อไม่ให้เท้าล้มเวลาเดินลงน้ำหนัก และควรใส่รองเท้าส้นนุ่ม ๆ เดินในบ้านด้วย |
16. Q: การรักษาต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหรือไม่ อย่างไร |
A: โรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ รักษาโดยวิธีต้องผ่าตัดเป็นหลัก ประมาณร้อยละ 80 – 90 ของผู้ป่วย อาการจะดีขึ้น แต่ต้องใช้ความอดทนในการดูแลรักษาตัวเอง (อาจใช้เวลานานถึง 2 – 6 เดือน) และต้องอาศัยหลาย ๆ วิธีประกอบกัน |
17. Q: การรักษาโรคเอ็นฝ่าเท้าอักเสบหรือรองช้ำ ควรลดน้ำหนักตัวด้วยหรือไม่ |
A: ควรค่ะ การลดน้ำหนักช่วยให้อาการปวดดีขึ้นได้เพราะเป็นการลดแรงลงน้ำหนักต่อฝ่าเท้า |
18. Q: ทำไมการใส่อุปกรณ์ลดปวดส้นเท้าและฝ่าเท้า plantar night splint จึงช่วยลดอาการปวดฝ่าเท้า ส้นเท้าได้ |
A: อุปกรณ์ลดปวดส้นเท้าและฝ่าเท้า plantar night splint จะช่วยยืดเอ็นกล้ามเนื้อฝ่าเท้าในท่ากระดกข้อเท้าขึ้น |
19. Q: การรักษาด้วยการผ่าตัดทำได้ในกรณีใด |
A: การผ่าตัดแก้ไขความพิการของเท้า เช่น ฝ่าเท้าแบนราบหรือโค้งเกินไป หรือมีการงอกของกระดูก |
20. Q: การรักษาด้วยการเปลี่ยนหรือแก้ไขรองเท้าให้ถูกลักษณะขึ้นทำได้อย่างไร |
A: โดยเลือกรองเท้าที่มีส้นนุ่ม ๆ หรือใช้แผ่นรองส้นเท้าที่นุ่ม ๆ มาติดเสริมในรองเท้า ผู้ที่มีฝ่าเท้าแบน อาจเลือกใช้แผ่นรองที่บริเวณอุ้งเท้าเพื่อไม่ให้เท้าล้มเวลาเดินลงน้ำหนัก และควรใส่รองเท้าส้นนุ่ม ๆ เดินในบ้านด้วย |
21. Q: การทำกายภาพบำบัดด้วยตนเองทำได้อย่างไร มีกี่ท่า ที่ควรทำ |
A: 2ท่า ท่าที่1 การยืดกล้ามเนื้อน่อง และเอ็นฝ่าเท้า โดยในการยืดจะต้องทำค้างไว้ 10 วินาที ทำครั้งละ ประมาณ 10 ครั้ง ควรทำก่อนลุกขึ้นเดินหลังตื่นนอนและหลายๆ ครั้งต่อวัน ท่าที่2 ใช้ผ้าหนาๆสอดไปใต้ฝ่าเท้าในท่าที่นั่งยืดขา ค่อยๆดึงผ้าจนกระทั่งรู้สึกตึงๆฝ่าเท้า การยืดกล้ามเนื้อนี้สามารถทำได้ 3 นาทีต่อครั้ง เป็นเวลา 3 ครั้งใน 1 วัน หรือว่าจะเป็น ครั้งละ 20 วินาทีทำ 5 ยก ทำวันละ 2 ครั้งก็ได้ |
22. Q: ในกรณีที่ผู้ป่วยดูแลตนเองอย่างเต็มที่โดยวิธีไม่ผ่าตัดแล้วยังมีอาการของเอ็นฝ่าเท้าอักเสบอยู่ต้องทำอย่างไร |
A: อาจจะต้องผ่าตัด เพื่อเลาะเนื้อเยื่ออักเสบและยืดเอ็นฝ่าเท้า หรือเอาหินปูนที่เกาะบริเวณกระดูกส้นเท้าออก |
23. Q: ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการดีขึ้นใน 2-3 เดือน หากไม่ดีขึ้นต้องทำอย่างไร |
A: ต้องทำการ x- ray อาจมีหินการงอกของหินปูนหรือ แพทย์จะทำการฉีดยา steroid เข้าบริเวณเอ็นฝ่าเท้า |
24. Q: เมื่อมีอาการปวดการดูแลตนเองเบื้องต้นทำได้อย่างไร |
A: การประคบร้อนหรือเย็น บริเวณส้นเท้าและฝ่าเท้า ประมาณ15-20นาที |
25. Q: การทำกายภาพบำบัดด้วยตนเองทำได้อย่างไร มีกี่ท่า ที่ควรทำ |
A: 2ท่า ท่าที่1 การยืดกล้ามเนื้อน่อง และเอ็นฝ่าเท้า โดยในการยืดจะต้องทำค้างไว้ 10 วินาที ทำครั้งละ ประมาณ 10 ครั้ง ควรทำก่อนลุกขึ้นเดินหลังตื่นนอนและหลายๆ ครั้งต่อวัน ท่าที่2 ใช้ผ้าหนาๆสอดไปใต้ฝ่าเท้าในท่าที่นั่งยืดขา ค่อยๆดึงผ้าจนกระทั่งรู้สึกตึงๆฝ่าเท้า การยืดกล้ามเนื้อนี้สามารถทำได้ 3 นาทีต่อครั้ง เป็นเวลา 3 ครั้งใน 1 วัน หรือว่าจะเป็น ครั้งละ 20 วินาทีทำ 5 ยก ทำวันละ 2 ครั้งก็ได้ |
26. Q: การรักษาโดยใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด จะเจ็บมากหรือไม่ |
A: ขณะรักษาไม่เจ็บค่ะ เครื่องมือกายภาพบำบัดเป็นเครื่องทางการแพทย์ที่สามารถลดการปวดการอักเสบได้จำเพาะจุด ช่วยรักษาการอักเสบในชั้นลึกของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี |
ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด
>>>เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด
>>>http://www.firstphysioclinic.com
>>>LINE ID: 0852644994
หน้าที่เข้าชม | 3,206,882 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,288,805 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ต.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |