Q & A เรื่อง ภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด (Empyema)
BY...FIRSTPHYSIO http://www.firstphysioclinic.com LINE ID:0852644994
1. Q : โพรงเยื่อหุ้มปอด คืออะไร |
A : โพรงเยื่อหุ้มปอด หมายถึง ช่องว่างระหว่างเยื่อ 2 ชั้นที่หุ้มอยู่รอบปอด ซึ่งมีน้ำหล่อลื่นอยู่เล็กน้อย หากเกิดการระคายเคืองหรือการอักเสบของเยื่อหุ้มปอด หรือมีภาวะที่ทำให้น้ำเหลืองหรือเลือดซึม เข้าไปในโพรงเยื่อหุ้มปอด ก็จะทำให้น้ำเหลือง เลือด หรือหนองขังอยู่ในโพรงเยื่อหุ้มปอดได้ |
2. Q : สาเหตุของภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) คืออะไร |
A : สาเหตุของโรคนี้ที่มักพบได้บ่อย เช่น ปอดอักเสบ วัณโรคปอด มะเร็งปอด ภาวะหัวใจวาย เยื่อหุ้ม |
3. Q : อาการของภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) จะมีอาการอย่างไร |
A : อาการที่สำคัญของโรคนี้ คือ เจ็บแปลบเมื่อหายใจแรงๆ แน่นหน้าอก หายใจหอบเหนื่อย อาการอื่นๆ ที่ขึ้นกับสาเหตุของโรค เช่น ไข้ ไอเรื้อรัง เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ปวดข้อ ปวดท้อง บวม เป็นต้น ใน รายที่เป็นในระยะเริ่มแรกอาจไม่มีอาการแสดงอะไร แต่มักจะตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจ สุขภาพ |
4. Q : ภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) อาการที่ตรวจพบ คืออะไร |
A : หายใจเร็วกว่าปกติ มีการอาการหอบเหนื่อย เมื่อใช้เครื่องตรวจฟังปอดจะไม่ได้ยินเสียงหายใจ หรือได้ยินค่อยๆ เพราะปอดข้างใดข้างหนึ่งที่เป็นจะเคลื่อนไหวได้น้อยกว่าปกติ เกิดภาวะปอดเคาะ ทึบ หากมีอาการมากๆ ท่อลมจะถูกดันให้เบี้ยวไปอีกข้างหนึ่ง |
5.Q : ภาวะแทรกซ้อนของภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) มีอะไรได้บ้าง |
A : เมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนอาจทำให้มีการติดเชื้อของน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด หรือเยื่อหุ้มปอดเกิดการ หนาตัวขึ้น ซึ่งมีผลทำให้ปอดขยายตัวได้ลดน้อยลง อาจทำให้หายใจลำบากจากสาเหตุเนื้อปอด แฟบในกรณีที่มีอาการรุนแรง |
6. Q : อยากทราบวิธีการการตรวจวินิจฉัยโรคภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด (Empyema) |
A : แพทย์จะวินิจฉัยโดยการเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ เจาะปอดนำน้ำหรือหนองจากการตรวจย้อมและ เพาะเชื้อหรือตรวจหาเซลล์มะเร็ง อาจจำเป็นต้องเจาะเนื้อเยื่อหุ้มปอดนำไปตรวจชิ้นเนื้อในบางราย ถ้าพบมีหนองมักเป็นจากปอดอักเสบ ถ้าหนองสีเหมือนกะปิมักเป็นจากฝีตับอะมีบา ถ้าน้ำเหลือง สีเหมือนฟางข้าวมักมีสาเหตุจากวัณโรคปอด หรือมะเร็งปอด หรือถ้าเป็นน้ำเลือดก็แสดงว่าเป็น มะเร็งปอด |
7. Q : อยากทราบการรักษาโรคภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) |
A : ซึ่งการรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรค หากเป็นระยะเริ่ม แรกวิธีการรักษาคือการใส่ท่อระบายหนอง ออก หากสามารถระบายหนองออกได้หมดและอาการผู้ป่วยดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำการผ่าตัด เพียงแต่ต้องให้ยาปฏิชีวนะนานอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ |
8. Q : ภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) ควรให้ยาปฏิชีวนะ ชนิดใด |
A : ควรให้การรักษาตามเหตุที่พบ เช่น ให้ยาปฏิชีวนะไดคล็อกซาซิลลินชนิดฉีดในขนาดสูงๆ ในปอด อักเสบ ให้ยารักษาวัณโรคในวัณโรค ให้เมโทรไนดาโซลในฝีตับอะมีบา เป็นต้น |
9. Q : สาเหตุหลักของภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) คืออะไร |
A : สาเหตุหลักมักเกิดตามหลังการติดเชื่อปอดอักเสบแล้ว ได้รับการรักษาไม่เพียงพอหรือภูมิต้านทาน โรคของรางกายผู้ป่วยไม่แข็งแรง ทำให้ผู้ป่วยมีไข้ ไอ อ่อนเพลีย หอบเหนื่อย เจ็บหน้าอก เบื่ออาหาร เป็นต้น |
10. Q : เมื่อไหร่ถึงควรการรักษาภาวะมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด ( Empyema ) ด้วยการผ่าตัด |
A : เมื่อให้ยาปฏิชีวนะนานอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ไปแล้ว ถ้าอาการไม่ดีขึ้นหรือจากภายถ่ายรังสี ทรวงอกพบว่ายังมีหนองอยู่ ซึ่งแสดงว่าเป็นระยะที่ 2 หรือ 3 แล้ว ก็มีความจำเป็นต้องรักษาด้วยการ ผ่าตัด เช่น การตัดซี่โครงออก 1 -3 ซี่ เพื่อทำการระบายหนองออกให้หมด หรือการลอกเยื่ออักเสบ ติดเชื้อออกจากเยื่อหุ้มปอด อาจใช้การเปิดแผลที่ทรวงอกขนาดใหญ่หรือการใช้กล้องช่วยในการ ผ่าตัด ทั้งนี้หากไม่ทำการรักษาด้วยการผ่าตัดจะทำให้การดำเนินโรคเป็นมากขึ้น อาจเกิดการติดเชื้อ ในกระแสเลือดและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ อีกทั้งยังอาจทำให้ปอดไม่ความเสี่ยงและ ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น |
ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด
>>>เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด
>>>http://www.firstphysioclinic.com
>>>LINE ID: 0852644994
หน้าที่เข้าชม | 3,206,882 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,288,805 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ต.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |