BY...FIRSTPHYSIO http://www.firstphysioclinic.com LINE ID:0852644994
1. Q : คำนิยามของโรคหอบหืด ( Asthma ) คือ |
A : โรคหอบหืดเป็นโรคของหลอดลมที่มีการอักเสบเรื้อรัง [Chronic inflammatory] เป็นผลให้มี cell ต่างๆ เช่น mast cell,eosinophils,T-lymphocyte,macrophage,neutrophil มาสะสมที่เยื่อบุผนัง หลอดลม ทำให้เยื่อบุผนังหลอดลมมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารภูมิแพ้ และสิ่งแวดล้อมมากกว่าคน ปกติ [bronchial hyper-reactivity] ผลจากการอักเสบจึงทำให้เยื่อบุผนังหลอดลมมีการหนาตัว กล้ามเนื้อหลอดลมมีการหดเกร็งตัว ทำให้ผู้ป่วยมีอาการไอ แน่นหน้าอก หายใจมีเสียงหวีด และหอบเหนื่อย อาการหอบเหนื่อยจะเกิดขึ้นทันทีที่ได้รับสารภูมิแพ้ |
2. Q : ขณะที่เป็นหอบหืด หลอดลมจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร |
A : เมื่อหายใจเอาสารภูมิแพ้เข้าไปในปอดจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในปอด ดังนี้ |
3. Q : จากกลไกดังกล่าวทำให้หลอดลมมีการหดเกร็ง จึงทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการอะไร |
A : หายใจตื้น หรือหายใจสั้นแน่นหน้าอก ไอ หายใจเสียงดัง โรคหอบหืดจะมีอาการไม่ แน่นอนอาการของผู้ป่วยจะผันแปรได้หลายรูปแบบ อาการหอบอาจจะเบาจนกระทั่งหอบหนัก อาการแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน อาการอาจจะกำเริบเป็นครั้งๆ หรืออาการอาจจะหายไปเป็น เวลานาน อาการหอบแต่ละครั้งจะไม่เท่ากัน |
4. Q : ผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืด เป็นโรคประจำตัวควรฝึกทำกายภาพบำบัดแบบใด |
A : ควรเน้นฝึกบริหารกล้ามเนื้อกระบังลม โดยหายใจเข้าท้องป่อง หายใจออกท้องยุบ พร้อมกับหายใจเข้าทางจมูกหายใจออกเป่าออกทางปากช้าๆ หรืออาจใช้รอกคู่บริหารหัวไหล่ ช่วยในการบริหารกล้ามเนื้อหน้าอกช่วยให้มีการขยายตัวของทรวงอกได้มากขึ้น |
5.Q : ผู้ป่วยคนไหนที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากโรคหืด |
A : ผู้ป่วยที่มีประวัติดังต่อไปนี้หากเกิดอาการหอบหืดขึ้นมา พบว่าผู้ป่วยเหล่านี้มีความเสี่ยงต่อการ เสียชีวิตจากโรคหอบหืดสูงมาก ควรจะพักรักษาในโรงพยาบาล กำลังใช้ หรือเคยใช้ steroid ชนิด |
6. Q : เมื่อไรจึงจะสงสัยว่าเป็นโรคหอบหืด |
A : หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ควรไปพบแพทย์เพื่อการตรวจ Spirometry เพื่อการวินิจฉัยว่าเป็นหอบหืด หรือไม่ มีประวัติ ไอแน่นหน้าอกหายใจมีเสียงดังหวีดและหอบเป็นๆ หาย ๆ มีอาการหอบหืด เกิดขึ้นทันที่เมื่อได้รับสิ่งกระตุ้น และอาการดังกล่าวจะหายไปได้เอง หรือหายไปเมื่อได้ยาขยายหลอดลม ผู้ป่วยที่ไม่ได้รับการรักษาจะมีหอบหืดเกิดขึ้นหรือเป็นมากขึ้นในเวลากลางคืน มีประวัติผื่นคัน อาการคันและอักเสบของเยื่อบุตา อาการคัดจมูกเรื้อรังหรืออาการจาม มีประวัติหอบหืดในครอบครัว |
7. Q : อาการหอบหืดจะเกิดหรือเป็นมากขึ้นในภาวะดังต่อไปนี้ |
A : หลังออกกำลังกาย เป็นไข้หวัด ควันบุหรี่ เกศรดอกไม้ รังแคสัตว์ ฝุ่น จากหมอน พรม ผ้าห่ม อุณหภูมิเปลี่ยนแปลง อารมณ์ผันผวน สารเคมี เช่น กลิ่นสี spray ยา เช่น Aspirin |
8. Q : การตรวจวินิจฉัย |
A : แพทย์จะซักประวัติและตรวจร่างกายซึ่งจะแตกต่างในแต่ละราย อาจจะตรวจไม่พบอะไรในขณะที่ |
9. Q : การจำแนกความรุนแรงของโรคหอบหืด คืออะไร |
A : โดยอาศัยจำนวนครั้งของการหอบทั้งกลางวันและกลางคืน ความรุนแรงของอาการหอบ และ |
10. Q : ความรุนแรงของโรค อาการของโรคแต่ละระดับ รวมทั้งการตรวจสมรรถภาพปอด มีอะไรบ้าง |
A : ขั้น 1 ผู้ป่วยที่มีอาการนาน ๆ ครั้ง Mild Intermittent อาการก่อนรักษาหอบแต่ละครั้งไม่นาน 2-3 ชั่วโมง อาการหอบกลางวันน้อยกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ช่วงที่ไม่หอบจะไม่มีอาการและสมรรถภาพปอดปกติ อาการหอบหืดกลางคืนน้อยกว่าเดือน ละ 2 ครั้ง สมรรถภาพปอด PEF>80%ของค่ามาตรฐาน ค่าผันผวน<20% |
ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด
>>>เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด
>>>http://www.firstphysioclinic.com
>>>LINE ID: 0852644994
หน้าที่เข้าชม | 3,206,882 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,288,805 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ต.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |