BY...FIRSTPHYSIO http://www.firstphysioclinic.com LINE ID:0852644994
1. Q: นักกีฬาที่เล่นกีฬาชนิดใดมีแนวโน้มที่จะเกิดเส้นเอ็นไขว้หน้าบาดเจ็บได้ง่าย |
A:ฟุตบอลและบาสเก็ตบอล |
2. Q: ข้อเข่าประกอบไปด้วยกระดูก 3 ส่วน อะไรบ้าง |
A: กระดูกต้นขา(femur) กระดูกแข้ง (Tibia) และ กระดูกสะบ้า (Patella) โดยกระดูกสะบ้าจะอยู่ด้านหน้าของข้อต่อเพื่อเป็นเกราะป้องกัน |
3. Q: การบาดเจ็บของเส้นเอ็นระดับ 1 (Grade 1 sprains) มีลักษณะใด |
A: เส้นเอ็นที่ได้รับบาดเจ็บในระดับ1จะมีการยืดออกเล็กน้อยแต่ยังคงสามารถที่จะช่วยให้ข้อเข่าคงตัวไว้ได้ |
4. Q: การบาดเจ็บของเส้นเอ็นระดับ 2 (Grade 2 sprains) มีลักษณะใด |
A: การบาดเจ็บระดับ2จะทำให้เส้นเอ็นยืดจนถึงจุดที่มันหลวม ซึ่งมักจะหมายถึงเส้นเอ็นฉีกขาดบางส่วน |
5. Q: การบาดเจ็บของเส้นเอ็นระดับ 3 (Grade 3 sprains) มีลักษณะใด |
A: การบาดเจ็บระดับนี้ส่วนใหญ่มักจะหมายถึงเส้นเอ็นฉีกขาดจากกันออกเป็น2ส่วนและข้อเข่าจะไม่มั่นคง |
6. Q: เส้นเอ็นใดที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของเข่า |
A: medial collateral ligament และ lateral collateral ligament |
7. Q: เส้นเอ็นใดที่จะควบคุมการเคลื่อนที่ไปหน้า-หลังของเข่า |
A: Cruciate ligaments |
8. Q: มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรเมื่อทราบว่าเป็นเอ็นไขว้หน้าฉีก |
A: ถ้าเป็นในระดับที่ไม่ต้องผ่าตัด ควรใช้อุปกรณ์พยุงข้อเข่าและสะบ้าแบบมีแกนหรือ open patellar flexible bar เวลาทที่ต้องยืนเดินเป็นเวลานานๆ ไม่ควรเดินขึ้นลงบันไดมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้เข่าอักเสบมากขึ้นอีก |
9. Q: สาเหตุที่ทำให้นักกีฬาเพศหญิงมีอุบัติการณ์เกิด ACL มากกว่าเพศชายคืออะไร |
A: เนื่องจากสภาพทางร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการควบคุมระบบประสาทของกล้ามเนื้อต่างกัน |
10. Q: สาเหตุที่ทำให้นักกีฬาบาสเกตบอลมีอุบัติการณ์เกิด ACL คืออะไร |
A: หยุดการเคลื่อนที่กะทันหัน,กระโดดลงมาอย่างไม่เหมาะสม |
11. Q: อาการที่ผู้ป่วยสังเกตได้ด้วยตนเองว่าเอ็นไขว้หน้าฉีกคืออะไร |
A: คนไข้จะได้ยินเสียง popping และรู้สึกเหมือนเข่าจะเคลื่อนหลุด |
12. Q: อาการผิดปกติที่พบได้บ่อยได้แก่อะไร |
A: ปวดและบวม ภายใน24ชั่วโมง,งอเข่าไม่ลง,ปวดตามข้อ,รู้สึกไม่สบายขณะเดิน |
13. Q: หลังผ่าตัดเข่าเอ็นไขว้หน้า นานเท่าไหร่เข่าจึงจะยุบบวม |
A: ประมาณ 3-7 วันหลังผ่าตัดเข่าจะเริ่มยุบบวม แต่ถ้าอยากให้ยุบบวมเร็วควรประคบเย็นโดยใช้ cold pack หรือถุงเจลประคบเย็บ ประคบจุดละประมาณ10 นาทีและควรทำบ่อยๆ หลีกเลี่ยงบริเวณแผลเปิด |
14. Q: การตรวจอื่นๆที่จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยของแพทย์ คือ |
A: MRI สามารถทำให้เห็นภาพของเนื้อเยื่ออ่อนเช่นเส้นเอ็นไขว้หน้าได้ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยเส้นเอ็นไหว้หน้าฉีกขาดไม่จำเป็นต้องใช้MRI |
15. Q: หลังผ่าตัดเอ็นไขว้หน้าระยะนานเท่าใดจึงสามารถเดินลงน้ำหนักได้เต็มที่ |
A: หลังผ่าตัดแพทย์ จะนัด x-ray เพื่ออ่านผล และแพทย์จะเป็นผู้แนะนำเองว่าผู้ป่วยควรเริ่มเดินลงน้ำหนักเท่าใดของน้ำหนัก |
16. Q: นักกีฬาที่อายุน้อยที่เล่นกีฬาที่ต้องใช้ความว่องไวต้องได้รับการรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสม |
A: ส่วนใหญ่ต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อที่จะได้กลับไปเล่นกีฬาได้อย่างปลอดภัย |
17. Q: คนไข้ที่ทำกิจกรรมน้อยลงควรได้รับการรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสม |
A: สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำกิจกรรมเบาๆได้โดยไม่ต้องผ่าตัด |
18. Q: การรักษาโดยไม่ผ่าตัดจะได้ผลดีกับผู้ป่วยใด |
A: ผู้ป่วยที่สูงอายุและทำกิจกรรมเบาๆเล็กๆน้อยๆ |
19. Q: แพทย์อาจแนะนำให้ใส่อุปกรณ์ใดเพื่อทีจะป้องกันเข่าจากความไม่มั่นคงในการเคลื่อนที่ |
A: open patellar flexible bar หรืออุปกรณ์พยุงเข่าและสะบ้าแบบมีแกนด้านข้าง บางรายอาจต้องใช้ไม้ค้ำยันเพื่อลดการลงน้ำหนักที่ขา |
20. Q: การทำกายภาพบำบัด (Physical therapy) เริ่มทำได้เมื่อใด |
A: ทำได้เมื่อบวมลดลงก็สามารถเริ่มทำกายภาพบำบัดได้ ออกกำลังกายท่าเฉพาะจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของเข่าได้และทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง |
21. Q: การรักษาแบบผ่าตัด (Surgical treatment) ทำได้โดยวิธีใด |
A: การสร้างเส้นเอ็นใหม่ (Rebuilding the ligament) จะต้องสร้างเส้นเอ็นใหม่โดยแพทย์จะใส่เนื้อเยื่อปลูกถ่ายแทนเส้นเอ็นที่ขาด |
22. Q: เนื้อเยื่อปลูกถ่ายสามารถได้มาจากแหล่งใด |
A: บ่อยครั้งจะได้มาจากเส้นเอ็นสะบ้าซึ่งอยู่ระหว่างสะบ้ากับกระดูกแข้ง เส้นเอ็นhamstringที่ด้านหลังต้นขามักเป็นแหล่งของเนื้อเยื่อที่นำมาใช้เหมือนกัน บางครั้งก็ใช้เส้นเอ็นQuadricepsที่วิ่งจากสะบ้าเชื่อกับกระดูกต้นขา |
23. Q: เนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายนั้นต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตนานเท่าใด |
A: ประมาณ 6 เดือนหรือมากกว่านั้น |
24. Q: ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อรักษาอาการ ACL คืออะไร |
A: มีการความเจ็บปวดจากการผ่าตัดน้อยกว่า ใช้เวลาพักในโรงพยาบาลสั้นกว่า และยังฟื้นตัวเร็วกว่า |
25. Q: คนไข้หลังผ่าตัดเอ็นไขว้หน้า ต้องทำกายภาพบำบัดเพื่ออะไร |
A: ช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขาที่แข็งแรงมีกำลังไม่ลีบเล็กและกลับไปเคลื่อนไหวได้ตามปกติ |
26. Q : เส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า ( ACL ) คืออะไร |
A : เส้นเอ็น หมายถึง เนื้อเยื่อที่มีความแข็งแรงและเชื่อมต่อกระดูกเข้าด้วยกัน สำหรับเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่า (Anterior Cruciate Ligament หรือ ACL) จะอยู่บริเวณจุดกึ่งกลางของข้อเข่าและยาวไปตาม แนวเฉียงจากด้านหลังของกระดูกต้นขาไปจนถึงกระดูกหน้าแข้ง เส้นเอ็นนี้ทำหน้าที่ควบคุมการ เคลื่อนไหวของกระดูกหน้าแข้งว่าจะสามารถเคลื่อนไหวได้มากน้อยเพียงใดโดยเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าประกอบด้วย 2 ส่วนหลักๆ คือ Anteromedial และ Posterolateral ซึ่งแต่ละส่วนจะทำให้หัวเข่าและหน้าแข้งเคลื่อนไหวได้ในมุมต่างๆ |
27. Q : อาการของเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดเป็นอย่างไร |
A : ปวด บวม เจ็บมากขณะเดินลงน้ำหนัก บางรายไม่สามารถเดินลงน้ำหนักได้ |
28. Q : เส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดโดยทั่วไปอาการที่พบได้บ่อย ได้แก่อะไรบ้าง |
A : หัวเข่าบวมปูดทันทีหรือภายในไม่กี่ชั่วโมง หัวเข่าใช้งานไม่ได้ในขณะที่ได้รับบาดเจ็บ มีอาการเจ็บปวดรุนแรงจนไม่สามารถทำกิจกรรมอื่นได้ |
29.Q : การรักษาเส้นเอ็นไขว้หน้าข้อเข่าฉีกขาดมีความสำคัญอย่าไร |
A :ถ้าไม่รีบรักษาจะทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงที่จะได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่ามากขึ้นขณะทำกิจกรรมต่างๆ เมื่อทิ้งไว้ในบาดเจ็บนานเกิน 1 เดือน กล้ามเนื้อบริเวณหัวเข่ามักจะลีบเล็กลง เวลาเดินเหมือนแรงน้อยลง เดินๆเข่าจะทรุดบ่อยๆ |
30.Q : การรักษาทางกายภาพบำบัด มักใช้เครื่องมือใดในการรักษา |
A : เลเซอร์ทางกายภาพบำบัด อัลตร้าซาวด์ hot pack |
31. Q : หลังผ่าตัดเข่าเอ็นไขว้หน้า ควรเลือกใช้อุปกรณ์พยุงเข่าแบบใด |
A : หลังผ่าตัดใหม่ๆในช่วง 1-2 เดือนแรก แนะนำใช้อุปกรณ์พยุงเข่าปรับองศาได้ หรือ hinge knee support |
32. Q : นักกีฬาที่เล่นกีฬาชนิดใดมีแนวโน้มเสี่ยงที่จะเกิดเส้นเอ็นไขว้หน้าบาดเจ็บได้ง่าย |
A : นักกีฬาฟุตบอลและนักกีฬาบาสเก็ตบอล |
33. Q : เส้นเอ็นใดที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของเข่า |
A : Medial collateral ligament และ Lateral collateral ligament |
34. Q : ผู้ป่วยใช้วิธีการบริหารแบบใดเพื่อเพิ่มความแข็งแรงได้เร็วที่สุด |
A : ควรบริหารโดยการใช้น้ำหนักหรือแรงต้าน เช่นถุงทราย (sand bag) น้ำหนักที่ใช้มักเริ่มจาก 0.5 กิโลกรัมแล้วจึงค่อยๆเพิ่มน้ำหนักไปจนถึง 2 กิโลกรัม |
35. Q : การรักษาโดยการผ่าตัด มีเป้าหมายเพื่ออะไร |
A : เป็นวิธีการรักษาที่ใช้บ่อย มีเป้าหมายเพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกหน้าแข้งเคลื่อนที่ไปข้างหน้ามากเกินไปเพราะจะส่งผลเสียต่อกระดูกอ่อน และเพื่อให้หัวเข่ากลับมาทำงานได้ตามปกติ |
36. Q : การรักษาแบบผ่าตัด (Surgical treatment) ทำได้โดยวิธีใด |
A : การสร้างเส้นเอ็นใหม่ (Rebuilding the ligament) จะต้องสร้างเส้นเอ็นใหม่โดยแพทย์จะใส่เนื้อเยื่อปลูกถ่ายแทนเส้นเอ็นที่ขาด |
37. Q : เนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายนั้นต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตนานเท่าใด |
A : นักกีฬาอาจต้องรอประมาณ 6 เดือนหรือมากกว่านั้นกว่าจะกลับไปเล่นกีฬาได้ |
38. Q : อาการที่เหมือนเข่ามันจะบิดซ้ำอีกหลังจากที่บิดมาแล้วนี้เป็นอาการปกติหลังจากที่เส้นเอ็นและกล้ามเนื้อบาดเจ็บและยังไม่ฟื้นตัวดีใช่หรือไม่ หรือว่ามันจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป |
A : อาการเหมือนเข่าบิดจะดีขึ้นได้ด้วยการสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง ถ้าให้ดีต้องให้แข็งแรงกว่าเก่า หรือใหญ่มากขึ้นจากปกติก่อนการบาดเจ็บเสียอีก จึงจะสามารถชดเชยจุดอ่อนที่เข่าข้างนั้นๆ มี ซึ่งก็คือ เอ็นที่ขาดไป ( แม้จะได้รับการผ่าตัดก็ตาม ) และหมอนรองกระดูกที่ฉีกขาดไป การพักไม่ออกกำลังกายเลย ถือว่าไม่ควรกระทำ ต้องหาทางออกกำลังกาย โดยเว้นในส่วนที่มีการบาดเจ็บ เพื่อรักษาสภาพความฟิต และให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ที่ฝึกซ้อมได้ ยังคงมีความแข็งแรงอยู่เสมอ |
39. Q : การเล่น weight และการบริหารกล้ามเนื้อรอบหัวเข่ามันจะสามารถทำให้ข้อเข่าแข็งแรงพอที่จะกลับมาเล่นกีฬาหนักๆ อย่าง เช่น ฟุตบอลได้หรือไม่ |
A : ได้ค่ะ ควรมีการฝึกกล้ามเนื้อเหยียดเข่าหรือ Quadriceps muscle อย่างสม่ำเสมอ โดยใช้ Quadriceps board |
40. Q : เส้นเอ็นไขว้หน้า (Anterior Cruciate Ligament หรือ ACL ) คืออะไร มีหน้าที่หลักคืออะไร |
A : เส้นเอ็นไขว้หน้า (Anterior Cruciate LigamentหรือACL ) เป็นเส้นเอ็นที่มีลักษณะเป็นแผ่นยืดที่อยู่แกนกลางในข้อเข่าเชื่อมระหว่างกระดูกหน้าแข้งและกระดูกต้นขา ทำหน้าที่สร้างความมั่นคงให้กับข้อเข่า ทำให้เข่ามั่นคงขณะที่เราวิ่ง หรือมีการบิดเข่าเพื่อเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว |
41. Q : สาเหตุของการบาดเจ็บเกิดจากอะไรบ้าง |
A : ผู้ชาย มักเกิดการบาดเจ็บจากการปะทะ หรือการอ่อนล้าของกล้ามเนื้อขณะออกกำลังกาย ทำให้ร่างกายเคลื่อนตัวไปข้างหน้าในขณะที่เท้ายังยึดอยู่กับพื้น ผู้หญิงมักจะเกิดการบาดเจ็บจากการกระโดด แล้วลงเหยียบพื้นในลักษณะเข่าเหยียดหรือเข่าบิดขณะหกล้ม |
42. Q : อาการที่ชวนให้สงสัยว่ามีเอ็นไขว้หน้าขาด มีอะไรบ้าง |
A : เข่าบวมภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงภายหลังการบาดเจ็บ ขยับข้อเข่าได้ลำบากได้ยินเสียงดังของเอ็นขาดตอนที่ได้รับบาดเจ็บ เหยียดหรืองอเข่าได้ไม่สุด มีอาการเข่าทรุด หรือเข่าไม่มั่นคงเวลาเดินกลับตัวหรือเปลี่ยนทิศทางกะทันหันมีอาการปวดไม่สามารถเดินลงน้ำหนักเข่าข้างที่ได้รับบาดเจ็บ จนไม่สามารถเล่นกีฬาต่อได้ |
43. Q : วิธีการรักษา มีอะไรบ้าง |
A : มีวิธีการรักษา 2 แบบ คือการรักษาแบบผ่าตัด (surgery) และวิธีการรักษากายภาพบำบัด ( Conservative Treatment ) |
44. Q : เมื่อไหร่ควรรักษาด้วยการผ่าตัด |
A : เมื่อมีอาการเข่าทรุดเวลาเดินหรือกลับตัวเร็ว ๆ ข้อเข่าล็อคเวลาเดินเนื่องจากอาการนี้บ่งบอกว่ามีการบาดเจ็บของหมอนรองกระดูกฉีกขาดร่วมด้วย ซึ่งการบาดเจ็บที่มีหมอนรองกระดูกฉีกขาดร่วมด้วยควรรีบเข้ารับการรักษาโดยเร็ว เพราะให้ผลการรักษาที่ดีกว่า |
45. Q : เวลาที่เหมาะสมในการเข้ารับการผ่าตัด ควรเป็นช่วงไหน |
A : ข้อเข่าควรจะยุบบวม หรือข้อเข่าสามารถขยับได้ใกล้เคียงปกติ ไม่มีอาการข้อเข่าติด |
46. Q : แล้วกรณีแบบไหนที่ควรรักษาด้วยการรักษาแบบกายภาพบำบัด |
A : ถ้าใช้ชีวิตประจำวัน และมีกิจกรรมไม่รุนแรง โลดโผน วิธีการรักษาคือ รับประทานยาต้านการอักเสบ และลดปวด ทำกายภาพบำบัดและบริหารกล้ามเนื้อรอบๆข้อเข่า นอกจากนี้ยังต้องพยายาม หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือกีฬาที่อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำได้อีก เพราะการบาดเจ็บจะทำให้มีการฉีกขาดเพิ่มเติมของอวัยวะอื่นๆ ในข้อเข่าเช่นหมอนรอข้อเข่า ซึ่งจะทำให้ให้เกิดโรคเข่าเสื่อมในอนาคตได้เร็วขึ้น |
47. Q : การผ่าตัดมีวิธีการแบบไหนบ้าง |
A : ชนิดของการผ่าตัดไม่แตกต่างกันมากนัก ปัจจุบันเป็นการผ่าตัดผ่านกล้องส่องข้อเข่า แผลผ่าตัดเล็ก เจ็บตัวน้อย และฟื้นตัวหลังการผ่าตัดเร็ว แต่ความแตกต่างอยู่ที่ชนิดของเส้นเอ็นที่แพทย์นำมาใช้ทดแทนเส้นเอ็นที่ขาด ปัจจุบันในเมืองไทยนิยมใช้เอ็นของผู้ป่วยเองได้แก่ เส้นเอ็นลูกสะบ้าเข่า ( Bone Patella Tendon Bone Graft ) เส้นเอ็นข้างเข่า ( Hamstring Graft ) เส้นเอ็นเหนือสะบ้าเข่า (Quadriceps tendon ) เส้นเอ็นบริเวณขา ( Peroneus Tendon ) แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดจะเป็นผู้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเป็นรายๆไปตามความเหมาะสม |
48. Q : ผ่าตัดเข่าอ็นไขว้หน้ามาประมาณ 1 เดือน ไม่เคยทำกายภาพบำบัด ตอนนี้รู้สึกเหมือนสะโพกข้างเดียวกับที่ผ่าตัดเขาลีบเล็กลง เกิดจากสาเหตุใด |
A : เนื่องกล้ามเนื้อสะโพก หรือกลุ่มกล้ามเนื้อที่รียกว่า กลุ่ม gluteus muscle |
49. Q : ผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการผ่าตัดมีอะไรบ้าง |
A : แผลเป็น และมีอาการชารอบแผล อาการปวดเข่าด้านหน้า |
50. Q : ภายหลังการผ่าตัดจะต้องดูแลยังไงบ้าง |
A : การทำกายภาพบำบัดเป็นสิ่งที่จำเป็นภายหลังการผ่าตัด เพราะมีผลต่อความสำเร็จของการรักษา ถ้าไม่ปฏิบัติตามแผนการดูแลหลังการผ่าตัด อาจจะทำการผ่าตัดยากที่จะประสบผลสำเร็จภายหลัง การผ่าตัดผู้ป่วยจะมีบาดแผลจากการส่องกล้องข้อเข่าประมาณ 2-3 รู ร่วมกับมีบาดแผลความยาว ประมาณ 1 นิ้ว จำนวน 1-2 แผล ลักษณะบาดแผลจะถูกเย็บปิดด้วยไหม หรือพลาสเตอร์ปิดแผลพัน ทับด้วยผ้ายางยืดและพัน cryocuff ซึ่งมีความเย็นเพื่อลดอาการปวดและลดบวม ผู้ป่วยจะนอนพักฟื้นในห้องสังเกตอาการประมาณ 1-2 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด ก่อนถูกส่งตัวกลับห้องพัก การผ่าตัดผู้ป่วยจะใช้ระยะเวลานอนในโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน หลังจากนั้นแพทย์ แพทย์จะทำการเปลี่ยนผ้ายางยืดและทำความสะอาดแผล เมื่ออาการปวดลดลง ไม่จำเป็นต้องอาศัย ยาฉีดจะอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านได้ โดยให้ใส่อุปกรณ์พยุงเข่า (Hinge Knee brace) พร้อมไม้ค้ำยันในการช่วยพยุงเดิน โดยจะได้รับการฝึกจากนักกายภาพบำบัดก่อนที่ให้กลับบ้าน |
51. Q : เมื่อไหร่จะกลับไปทำงานได้ |
A : ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเข่าข้างขวา อาจจะมีปัญหาในการขับรถ ในขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดเข่าข้างซ้าย จะสามารถขับรถเกียร์อัตโนมัติได้ตามระยะเวลาข้างล่าง ซึ่งจะบอกเวลาโดยประมาณ |
52. Q: นักกีฬาที่เล่นกีฬาชนิดใดมีแนวโน้มที่จะเกิดเส้นเอ็นไขว้หน้าบาดเจ็บได้ง่าย |
A: นัก กีฬาพวกฟุตบอลและบาสเก็ตบอล |
53. Q: ข้อเข่าประกอบไปด้วยกระดูก 3 ส่วน อะไรบ้าง |
A: กระดูกต้นขา (Femur) กระดูกแข้ง (Tibia) และ กระดูกสะบ้า (Patella) โดยกระดูกสะบ้าจะอยู่ด้านหน้าของข้อต่อเพื่อเป็นเกราะป้องกัน |
54. Q: การบาดเจ็บของเส้นเอ็นระดับ 1 (Grade 1 sprains) มีลักษณะใด |
A: เส้นเอ็นที่ได้รับบาดเจ็บในระดับ1จะมีการยืดออกเล็กน้อยแต่ยังคงสามารถที่จะช่วยให้ข้อเข่าคงตัวไว้ได้ |
55. Q: การบาดเจ็บของเส้นเอ็นระดับ 2 (Grade 2 sprains) มีลักษณะใด |
A: การบาดเจ็บระดับ2จะทำให้เส้นเอ็นยืดจนถึงจุดที่มันหลวม ซึ่งมักจะหมายถึงเส้นเอ็นฉีกขาดบางส่วน |
56. Q: การบาดเจ็บของเส้นเอ็นระดับ 3 (Grade 3 sprains) มีลักษณะใด |
A: การบาดเจ็บระดับนี้ส่วนใหญ่มักจะหมายถึงเส้นเอ็นฉีกขาดจากกันออกเป็น2ส่วนและข้อเข่าจะไม่มั่นคง |
57. Q: เส้นเอ็นใดที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของเข่า |
A: medial collateral ligament และ lateral collateral ligament |
58. Q: เส้นเอ็นใดที่จะควบคุมการเคลื่อนที่ไปหน้า-หลังของเข่า |
A: Cruciate ligaments |
59. Q: นักกีฬาเพศหญิงและนักกีฬาเพศชาย เพศใดมีอุบัติการณ์เกิด ACL มากกว่ากัน |
A: นักกีฬาเพศหญิง เนื่องจากสภาพทางร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการควบคุมระบบประสาทของกล้ามเนื้อต่างกัน และการจัดเรียงตัวของแนวกระดูกขาที่แตกต่างกันในเพศชายและหญิง เส้นเอ็นหลวมมากขึ้นและผลของฮอร์โมนเอสโตรเจนต่อเส้นเอ็น |
60. Q: สาเหตุที่ทำให้นักกีฬาเพศหญิงมีอุบัติการณ์เกิด ACL มากกว่าเพศชายคืออะไร |
A: เนื่องจากสภาพทางร่างกาย ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและการควบคุมระบบประสาทของกล้ามเนื้อต่างกัน |
61. Q: สาเหตุที่ทำให้นักกีฬาบาสเกตบอลมีอุบัติการณ์เกิด ACL คืออะไร |
A: หยุดการเคลื่อนที่กะทันหัน,กระโดดลงมาอย่างไม่เหมาะสม |
62. Q: อาการที่ผู้ป่วยสังเกตุได้ด้วยตนเองคืออะไร |
A: คนไข้จะได้ยินเสียง popping และรู้สึกเหมือนเข่าจะเคลื่อนหลุด |
63. Q: อาการผิดปกติที่พบได้บ่อยได้แก่อะไร |
A: ปวดและบวม ภายใน24ชั่วโมง,งอเข่าไม่ลง,ปวดตามข้อ,รู้สึกไม่สบายขณะเดิน |
64. Q: การตรวจที่จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยของแพทย์ คือ |
A: ภาพ X-rays จะไม่แสดงการบาดเจ็บของเส้นเอ็นแต่มันจะแสดงให้เห็นว่ามีการบาดเจ็บอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับกระดูกหักหรือไม่ |
65. Q: การตรวจอื่นๆที่จะช่วยยืนยันการวินิจฉัยของแพทย์ คือ |
A: MRI สามารถทำให้เห็นภาพของเนื้อเยื่ออ่อนเช่นเส้นเอ็นไขว้หน้าได้ชัดเจนขึ้น อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยเส้นเอ็นไหว้หน้าฉีกขาดไม่จำเป็นต้องใช้MRI |
66. Q: การบาดเจ็บของเส้นเอ็นส่วนใหญ่สามารถวินิจฉัยได้จากอะไร |
A: การตรวจทางร่างกายและประวัติของผู้ป่วย (Patient examination and patient history) |
67. Q: นักกีฬาที่อายุน้อยที่เล่นกีฬาที่ต้องใช้ความว่องไวต้องได้รับการรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสม |
A: ส่วนใหญ่ต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อที่จะได้กลับไปเล่นกีฬาได้อย่างปลอดภัย |
68. Q: คนไข้ที่ทำกิจกรรมน้อยลงควรได้รับการรักษาอย่างไรจึงจะเหมาะสม |
A: สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทำกิจกรรมเบาๆได้โดยไม่ต้องผ่าตัด |
69. Q: การรักษาโดยไม่ผ่าตัดจะได้ผลดีกับผู้ป่วยใด |
A: ผู้ป่วยที่สูงอายุและทำกิจกรรมเบาๆเล็กๆน้อยๆ |
70. Q: แพทย์อาจแนะนำให้ใส่อุปกรณ์ใดเพื่อทีจะป้องกันเข่าจากความไม่มั่นคงในการเคลื่อนที่ |
A: Knee support คนไข้อาจต้องใช้ไม้ค้ำยันเพื่อลดการลงน้ำหนักที่ขา |
71. Q: การทำกายภาพบำบัด (Physical Therapy) เริ่มทำได้เมื่อใด |
A: ทำได้เมื่อบวมลดลงก็สามารถเริ่มทำกายภาพบำบัดได้ ออกกำลังกายท่าเฉพาะจะช่วยฟื้นฟูการทำงานของเข่าได้และทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรง |
72. Q: การรักษาแบบผ่าตัด (Surgical Treatment) ทำได้โดยวิธีใด |
A: การสร้างเส้นเอ็นใหม่ (Rebuilding the ligament) จะต้องสร้างเส้นเอ็นใหม่โดยแพทย์จะใส่เนื้อเยื่อปลูกถ่ายแทนเส้นเอ็นที่ขาด |
73. Q: เนื้อเยื่อปลูกถ่ายสามารถได้มาจากแหล่งใด |
A: บ่อยครั้งจะได้มาจากเส้นเอ็นสะบ้าซึ่งอยู่ระหว่างสะบ้ากับกระดูกแข้ง เส้นเอ็นhamstringที่ด้านหลังต้นขามักเป็นแหล่งของเนื้อเยื่อที่นำมาใช้เหมือนกัน บางครั้งก็ใช้เส้นเอ็นQuadricepsที่วิ่งจากสะบ้าเชื่อกับกระดูกต้นขา |
74. Q: เนื้อเยื่อที่ปลูกถ่ายนั้นต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตนานเท่าใด |
A: นักกีฬาอาจต้องรอประมาณ 6 เดือนหรือมากกว่านั้นกว่าจะกลับไปเล่นกีฬาได้ |
75. Q: ข้อดีของการผ่าตัดส่องกล้องเพื่อรักษาอาการ ACL คืออะไร |
A: มีการความเจ็บปวดจากการผ่าตัดน้อยกว่า ใช้เวลาพักในโรงพยาบาลสั้นกว่า และยังฟื้นตัวเร็วกว่า |
76. Q: คนไข้ต้องทำกายภาพบำบัดเพื่ออะไร |
A: เพื่อให้สามารถกลับไปมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและกลับไปเคลื่อนไหวได้ตามปกติ |
ถาม-ตอบ ข้อสงสัยเกี่ยวกับกายภาพบำบัด
>>>เฟิร์สฟิสิโอคลินิกกายภาพบำบัด
>>>http://www.firstphysioclinic.com
>>>LINE ID: 0852644994
หน้าที่เข้าชม | 3,206,882 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,288,805 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ต.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |