รู้จักกันดีในภาษาชาวบ้านว่าอัมพาตครึ่งท่อน เรียกแบบอินเตอร์ว่า spinal cord injury หรือการบาดเจ็บของไขสันหลังซึ่งจะแตกต่างจากอัมพาตครึ่งซีกตรงต้นกำเนิดการเกิดโรคเนื่องจากอัมพาตครึ่งซีกมักเกิดที่สมองส่วนอัมพาตครึ่งท่อนมีสาเหตุได้หลากหลายสาเหตุ แต่ส่วนมากอัมพาตครึ่งท่อนต้นเหตุมักเกิดที่ไขสันหลังเกิดการบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุบนท้องถนน อุบัติเหตุการกีฬา มีการกดทับของไขสันหลังจากเนื้องอก ถูกยิง ฟันแทงด้วยอาวุธ ตกจากที่สูง หกล้ม และหลังกระแทกพื้น การบากเจ็บที่ไขสันหลังทำให้ขาดการติดต่อระหว่างสมองกับประสาทส่วนปลายทีอยู่ต่ำกว่าระดับที่ได้บาดเจ็บ ผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อน จะสูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหว การรับความรู้สึก การควบคุมการขับถ่าย และมีการเปลี่ยนแปลงการทำงานของระบบต่างๆในร่างกาย เช่น ระบบหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
การแบ่งชนิดของอัมพาตครึ่งท่อนตามการบาดเจ็บของไขสันหลังระดับการเคลื่อนไหว จะเรียกระดับสุดท้ายของไขสันหลังที่ทำหน้าที่ควบคุมกำลังกล้ามเนื้อให้มีกำลังตั้งแต่ระดับ 3 แต่ถ้าหากพยาธิสภาพอัมพาตครึ่งท่อน เกิดขึ้นที่ระดับอก มีการสูญเสียการรับความรู้สึกตั้งแต่ช่วงลำตัวลงไป ใช้วิธีการแบ่งตามระดับที่ของอัมพาตครึ่งท่อน มีการสูญเสียความรู้สึก คือจะเรียกตามระดับแรกที่มีผู้ป่วยอัมพาตครึ่งท่อน มีการเสียการรับความรู้สึกหรือเริ่มรับความรู้สึกลดลง
การแบ่งพยาธิสภาพของอัมพาตครึ่งท่อนตามความรุนแรงของการสูญเสียการทำงานของระบบประสาท โดยแยกว่าอัมพาตครึ่งท่อนเป็นการบาดเจ็บของไขสันหลังแบบสมบูรณ์หรือการบาดเจ็บของไขสันหลังแบบไม่สมบูรณ์ โดยใช้วิธีวิธีที่เรียกว่า sacral sparing definition คือการกลับมาของไขสันหลังระดับก้นกบ บางส่วนของอัมพาตครึ่งท่อนหลังจากไขสันหลังเกิดการบาดเจ็บ โดยจะมีการตรวจอยู่อย่างน้อย 1ใน 3 ถือเป็นอัมพาตครึ่งท่อนของการบาดเจ็บของไขสันหลังแบบสมบูรณ์
1 motor ความสามารถในการงอนิ้วหัวแม่เท้า
2 sensory การรับความรู้สึกของผิวหนังรอบๆทวาร
3 relfex ตรวจโดยการกระตุกสาบปัสสาวะที่วางไว้
จากการการบาดเจ็บไขสันหลังว่าเป็นแบบสมบูรณ์หรือเป็นการบาดเจ็บแบบไม่สมบูรณ์นั้น ใช้หลักเกณฑ์ ASIA scale ซึ่งแบ่งระดับความรุนแรงของอัมพาตครึ่งท่อนจากการบาดเจ็บระดับไขสันหลังได้ 5 ระดับ
ปัญหาที่พบ กอัมพาตครึ่งท่อน ผู้ป่วยจะไม่สามารถขยับแขน ขา หรือช่วยเหลือตนเองได้ จึงเกิดเป็นภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังตามมา คือ
1. ภาวะความดันต่ำ โดยผู้ป่วยนอนนานๆ จะทำให้ความดันต่ำลง โดยจะสังเกตได้จากขณะเปลียนท่าจากท่านั่งมานอนจะรู้สึกเวียนศรีษะ หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม
2. ขาบวม เกิดจากการไม่ได้เคลื่อนไหว นอนนานๆ ทำให้การไหลเวียนเลือดไม่ดีทำให้ขาบวม
3. หลอดเลือดดำอุดตัน เกิดจากการที่ไม่ได้เคลื่อนไหวขาเป็นเวลานาน ๆ ทำให้เกิดเป็นลิ่มเลือดบริเวณขา
4. แผลกดทับ เกิดแผลบริเวณปุ่มกระดูกจากการนอนนาน ๆ
5. ข้อติด การเกิดการยึดติดของข้อและการหดรั้งของกล้ามเนื้อนานเข้าจะทำให้เกิดการผิดรูปของข้อ บางกรณีอาจพบอาการปวดร่วมด้วย
- จะทำการรักษาทางกายภาพบำบัดหลังจากได้รับการรักษาทางการแพทย์จนอยู่ในภาวะคงที่แล้ว
- ทำการเคลื่อนไหวข้อต่อเหมือนในกรณีของผู้ป่วยอัมพาตครึ่งซีกแต่ควรระวังในรายที่มีการดามเหล็กอยู่ภายในข้อ ภายในกระดูก ไม่ต้องทำเกินกว่าที่ผู้ป่วยทำได้
- ออกกำลังกายโดยให้แรงต้านในกล้ามเนื้อที่ยังสามารถทำได้อยู่ เพื่อให้ใช้กล้ามเนื้อที่เหลืออยู่ทดแทนกล้ามเนื้อที่ไม่สามารถทำงานได้
- ไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยนอนนาน ๆ ควรแนะนำให้ผู้ป่วยนั่งบ้างในรายที่พอนั่งได้ หรือให้ผู้ป่วยยืนในรายที่สามารถเดินได้
หน้าที่เข้าชม | 3,206,882 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,288,805 ครั้ง |
เปิดร้าน | 31 ต.ค. 2556 |
ร้านค้าอัพเดท | 5 ก.ย. 2568 |